บริการ 10 คู่สายอัตโนมัติ

042 870 000 บริการ 10 คู่สายอัตโนมัติ

บทความเพื่อสุขภาพ

ทอนซิลอักเสบ…เป็นมากกว่าเจ็บคอ

9/16/19, 4:27 AM

ทอนซิลอักเสบ…เป็นมากกว่าเจ็บคอ

ต่อมทอนซิล เป็นอวัยวะที่อยู่ภายในลำคอ เป็นต่อมน้ำเหลืองที่ทำหน้าที่จับสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกายคล้ายกองทหารด่านหน้า แต่บ่อยครั้งที่เราจะสังเกตว่าอาการเจ็บคอมีสาเหตุเพราะการอักเสบภายในลำคอ และต่อมทอนซิลอักเสบนั่นเอง

สาเหตุเกิดจากอะไร

  1. เชื้อไวรัสเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่การรักษาทำได้ไม่ยาก เพียงรับประทานยา รักษาตามอาการ
  2. เชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อเบตา สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ ผู้ป่วยจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะหากได้รับการรักษาไม่ถูกวิธี รับประทานยาไม่ครบขนาด หรือใช้ยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อชนิดนี้ได้แม้อาการจะทุเลาลงแต่ก็มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงได้

อาการทอนซิลอักเสบ มีดังนี้

  1. ไข้สูง ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ บางรายในเด็กอาจมีไข้สูงจนชักได้
  2. อ่อนเพลีย หรือ ในเด็กเล็กอาจโยเยร้องกวนไม่ยอมนอน
  3. เบื่ออาหาร
  4. คอหรือต่อมทอลซิลแดง บางรายอาจมีหนองร่วมด้วย
  5. อาจกลืนอาหารและน้ำลำบาก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
  6. อาจอาเจียน ปวดท้อง หรือมีอาการท้องเดินร่วมด้วย

โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ

เชื้อเบตา สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงต่อหัวใจของเด็ก โดยที่เชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่าง ๆ และมักมีอาการอักเสบของหัวใจร่วมด้วย เราเรียกว่า "ไข้รูมาติก" โดยทั่วไปจะพบภายหลังคออักเสบหรือต่อมทอนซิลอักเสบแล้วไม่ได้รับการรักษาภายใน 1 - 4 สัปดาห์ ทั้งนี้เนื่องจาก หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หรือปล่อยให้อาการกำเริบซ้ำ ๆ จะทำให้หัวใจอักเสบเรื้อรัง และในที่สุดหัวใจก็จะตีบและรั่ว หรือที่เรียกว่า "โรคหัวใจรูมาติก" บางรายอาจต้องได้รับการการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ทำให้สิ้นเปลืองเงินทองและเวลาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เชื้อกลุ่มนี้ยังทำให้เกิดอาการไตอักเสบได้หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

ข้อแนะนำในการรักษา (คออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย)

  1. หลังจากแพทย์วินิจฉัยอาการ และสั่งยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อเบตา สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ เช่น เพนิซิลิน อีริโทรมัยซิน คลาริโทรไมซิน ให้แล้ว ข้อสำคัญ คือ ผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาต่อเนื่อง 7 - 10 วันจนครบ แม้อาการจะทุเลาแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไข้รูมาติก หรือไตอักเสบแทรกซ้อน
  2. เช็ดตัว ร่วมกับการให้ยาลดไข้เมื่อมีไข้สูง
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ
  4. รับประทานอาหารรสอ่อน ๆ อุ่นๆและย่อยง่าย งดรับประทานของทอด
  5. รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
  6. กลั้วคอทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ วันละ 2 - 3 ครั้ง

ข้อระวัง

หากท่านหรือบุตรหลานมีไข้ เจ็บคอมาก ควรนึกถึงโรคคออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบไว้ด้วยเสมอ และควรรีบมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมทั้งควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเคร่งครัดนะคะ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อายุรกรรม

นัดหมายแพทย์

ติดต่อสอบถาม


แพ็กเกจคลอดคุณภาพ